การ Build Java Project บน Jenkins น่าจะเป็นส่วนที่ง่ายที่สุดแล้ว เพราะว่า Jenkins เอง Implement ด้วยภาษา Java เลยทำให้การทำงานต่างๆจะ support java เสมอ ซึ่งการใช้งานก็ทำได้ง่ายมากๆ เพียงแค่ 2 ขั้นตอนเท่านั่นเอง
Install maven tools
เราสามารถสั่งให้ Jenkins ติดตั้ง maven ให้อัตโนมัติได้เลย ตามขั้นตอนด้านล่างนี้ครับ
- ไปที่ Manage Jenkins –> Global Tool Configuration
2. เลือก Maven installations –> Add Maven
3. ตั้งชื่อ Maven tool และเลือก version ได้เลยครับ
4. อย่าลืม Save ด้วยนะ
Config Pipeline script
- สร้าง Pipeline Job ได้ไปที่ New Item แล้วเลือกประเภทโปรเจคเป็น Pipeline
2. Copy ตัวอย่าง Code นี้ไปแปะใน Pipeline Script ได้เลย
pipeline {
agent any
tools {
maven "M3"
}
stages {
stage('Build') {
steps {
git 'https://github.com/jglick/simple-maven-project-with-tests.git'
bat "mvn -Dmaven.test.failure.ignore=true clean package"
}
post {
success {
junit '**/target/surefire-reports/TEST-*.xml'
archiveArtifacts 'target/*.jar'
}
}
}
}
}
3. Save แล้วสั่งรัน Build ได้เลย
อธิบาย Pipeline Code
- tools { maven “M3” }
เป็นการสั่งให้ Jenkins ทำการติดตั้ง Maven M3 ที่เรากำหนดไว้ก่อนหน้านี้ โดยถ้าเครื่องยังไม่ได้ติดตั้ง Jenkins จะ install ให้จาก internet ครับ - git ‘https://github.com/jglick/simple-maven-project-with-tests.git’
ใช้ Git clone source code จาก Github - bat “mvn -Dmaven.test.failure.ignore=true clean package”
รัน command maven ในการสร้าง package - junit ‘**/target/surefire-reports/TEST-*.xml’
ทำการอ่าน junit test result ที่ได้จากการรัน package - archiveArtifacts ‘target/*.jar’
จัดเก็บ jar file ที่ได้จากการรัน package
วิธีนี้นำไปประยุตร์ใช้กับ Java Gradle Project ก็ได้นะครับ เพราะ Tool configuration ก็รองรับ Gradle เช่นกัน เพียงแค่เปลี่ยน Tool และ command ที่ใช้ Build package เท่านั้นเอง
สนใจเรียนคอร์สออนไลน์เพิ่มเติมด้านล่างเลย
CI & CD ด้วย Jenkins Pipeline
เรียนคอร์ส Jenkins Online ก่อนใคร
จาก 3,000 ลดเหลือ 2,499 บาทเท่านั้น!!!